21 November 2014

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับความท้าทายในงาน พร้อมลุยเต็มที่ครับ

ผมรู้สึกขอบคุณพระเจ้ามาก ๆ กับประสบการณ์ และ ความท้าทายในงานที่มีให้กับผมเสมอมาตลอดเวลาที่ทำงานกว่า 20 ปีในองค์กรแห่งนี้ ขอบคุณพระเจ้าที่มอบหมายงานดี ๆ ท้าทายความสามารถ และ เป็นงานที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาน ความภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการเลี้ยงดู อวยพรชีวิตตนเอง ครอบครัวของผม.......

อยากจะแบ่งปันวิธีคิด และ ข้อคิดที่ใช้ในการทำงานตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 4 เรื่องดังต่อไปนี้

1. ทำความเข้าใจภาพที่ใหญ่กว่าความรับผิดชอบของตนเอง ผมคิดว่าการที่เราโฟกัสที่กรอบความรับผิดชอบขอตนเองนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และ เป็นสิ่งที่หัวหน้าหรือผู้ที่รับผิดชอบโครงการ/ยูนิต/แผนก หรือ ฝ่ายนั้น ๆ พึงทำ แต่บางครั้งในองค์กรเดียวกันที่มีหลายฝ่าย หลายแผนก ในหน่วยเดียวกันหรือต่างหน่วยมีกรอบงานที่ต่างกัน หรื อจำเป็นที่ต้องเชื่อมโยงกัน การเข้าใจกรอบงานที่ใหญ่กว่าทำให้เห็นความสัมพันธ์ และ ความแตกต่างของกรอบความรับผิดชอบ งานบางอย่างปัญหาบางอย่างที่เข้ามาด้วยกรอบความเข้าใจที่เห็นภาพรวมภาพใหญ่ ทำให้เราสามารถที่จะ contribute ให้กับองค์กรได้ดี โดยทำส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบให้เป็นคุณ หรือ สนับสนุนผู้อื่นให้สำเร็จได้เร็วขึ้น หรือ ดีขึ้น งานบางอย่างที่เข้ามาในบางครั้งบางทีหากเอากรอบงานตัวเองมากำหนดหรือตัดสิน เราจะมีปัญหาหรือคำถามว่าทำไมต้องทำ หรือ ทำพอเสร็จ แต่หากมองด้วยกรอบที่ใหญ่กว่าเราจะเห็นความหมายใหม่ของงานนั้น ให้เราเข้าใจคนอื่น เรียนรู้ที่จะทำงานช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น เป็นการสร้างความหมายของงานที่เราทำให้มีความหมายมากขึ้นด้วย

 2. คำถามที่ถามตัวเองอยู่เสมอในการทำงานในแต่ละบทบาทหน้าที่คือ "องค์กรจะได้อะไรจากเรา" คำถามนี้จะทำให้เราเกิดความเข้าใจตนเอง มองเห็นเป้าหมายในชีวิต จุดอ่อนที่จะพัฒนาตนเอง แทนที่จะถามว่า "เราจะได้อะไรในการทำงานตำแหน่งนี้" ทำให้องค์กร หรือ ทำให้หัวหน้างานมากกว่าที่เค้าคาดหวังเสมอ จะเป็นตัวที่จะช่วยเสริมสร้างเราให้เกิดความความรู้สึกในประเด็นต่อไปค่อไปคือ

3. เรามีความน่าเชื่อถือ ไว้วางใจ เพียงใดในองค์กร จึงอยู่ องค์กรมีขอบเขต สิทธิอำนาจ แต่บางครั้งการประสานงาน การทำงานร่วมกัน ความน่าเชื่อถือมีความสำคัญยิ่ง มันเป็นความรู้สึก ที่เกิดขึ้นจากการปฏิสัมพันธ์ แบบสั่งสม เพิ่มพูนจากน้อยไปหามาก หรือ มากไปหาน้อย ทั้งกับทีมงาน(ลูกน้อง) หัวหน้างาน (เจ้านาย) หรือ กับเพื่อนร่วมงาน ความน่าเชื่อถือทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น ทำงานที่ใหญ่ขึ้นได้ ความน่าเชื่อถือ ทำให้เราช่วยคนอื่นพัฒนาตัวเองได้โดย Feeback จุดอ่อนหรือจุดที่เค้าควรปรับปรุงโดยไม่มีแรงต้าน ซึ่งเป็นจุดที่องค์กรส่วนใหญ่ขาด และ ก่อปัญหามากกว่าประโยชน์ เพราะคนไม่รับ Feedback ไปตีความว่าถูกตำหนิ

4. เรามีความพร้อมที่จะสามารถช่วยเหลือคนอื่น หรือ รับผิดชอบงานได้มากขึ้นหรือไม่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวเอง พัฒนาตนเองให้พร้อมอยู่เสมอ มั่นฝึกฝน เรียนรู้ตลอดเวลา เพราะโอกาสในการช่วยเหลือคนอื่น หรือ โอกาสในการเปลี่ยนแปลงมีไม่มากนัก ในหนังสือเรื่อง Servant Leadership เรื่องของคุณสมบัติหนึ่งของผู้นำแบบผู้รับใช้คือความพร้อมที่จะตอบสนองหรือช่วยเหลือคนอื่นตลอดเวลา เพราะโอกาสก็เหมือนไอติม ไม่กินก็ละละลาย ดังนั้น คนที่พร้อม คนที่ไว ตอบสนองเท่านั้นจึงจะได้โอกาสนั้น หมั่นฝึกฝนตลอดเวลาครับ

มีคำกล่าวถึงคนสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือเรียกร้องหาตำแหน่งแล้วค่อยจะแสดงฝีมือ หรือผลงาน กับอีกกลุ่มหนึ่งคือ มุ่งฝึกฝันพัฒนาตนเองเมื่อได้รับตำแหน่งจะได้แสดงผลงานอย่างเต็มที่ แต่หากคนทั้งสองกลุ่มไม่ได้ตำแหน่ง จะมีเพียงกลุ่มเดียวที่ไม่เสียดายเวลาหรือส่ิงที่ทำลงไป

สุดท้ายกับหัวข้อของการประชุมปีหนี้คือ ก้าวย่างที่มั่นใจ สู่ยุคใหม่อย่างภาคภูมิ ซึ่งสะท้อนภาพขององค์กรอย่างไรที่ผมคิดว่าความมั่นใจที่เราจะก้าวย่างไปนั้น มาจากความพร้อมที่เรามี ความพร้อมที่ 1  คือความพร้อมขององค์กรซึ่งเราพร้อมมากทั้ง Facilities ต่าง ๆ ภาพลักษณ์ แผนงาน ยุทธศาสตร์ ความพร้อมที่ 2 ผู้นำของเรามีความพร้อม และ เข้าใจงาน เป้าหมายที่ชัดเจน คำถามสำคัญ เราพร้อมหรือไม่ที่จะก้าวย่างไป หากพร้อม เราพร้อมที่จะรับการทดสอบหรือไม่ว่าจะสามารถทำได้ เพื่อที่เราจะได้มุ่งไปสู่ยุคใหม่ที่องค์กรจะได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือเด็ก และ คนยากไร้ อย่างภาคภูมิ 

การเติบใหญ่ขององค์กรอย่างเรา ชื่อเสียง ความสำเร็จที่เกิดขึ้น และ มากขึ้น จะเป็นการถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเป็นเจ้าต่อคนทั้งหลายมากยิ่งขึ้นด้วย

ขอส่งพระธรรมหนุนใจทิ้งท้ายในเรื่อง พระพรที่มีแก่ครอบครัวของผู้นำเกรงพระเจ้า โดยในพระธรรมสดุดี 128:1-2  ทุกคนที่ยำเกรงต่อพระยาเวห์ก็เป็นสุข คือผู้ที่เดินในพระมรรคาของพระองค์ ท่านจะได้กินผลผลิตจากน้ำพักน้ำแรงของท่าน ท่านจะเป็นสุข และ ท่านจะเจริญ

ขอบคุณทุก ๆ คนครับ ขอพระเจ้าอวยพระพร
สราวุธ
21 พฤศจิกายน 2014@ศูนย์ฝึกอบรม มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย